รู้หรือไม่? ไม่ใช่ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดกับรถที่ซื้อ ประกัน รถยนต์ไว้แล้ว ประกันจะคุ้มครองทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถยนต์ ไม่ว่าจะประกันภัยรถชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้น 3 ก็ตาม ยังมีบางเหตุการณ์ที่ประกัน Say No ไม่จ่าย ไม่ดูแลความคุ้มครองให้ วันนี้เราจะมาบอกต่อสิ่งสำคัญที่จะทำให้ถูกปฏิเสธความคุ้มครอง และผู้ขับรถยนต์ทุกท่านต้องจำให้ขึ้นใจ โดยจะมีกรณีไหนบ้างนั้นตามไปจดกันเลย
โดยปกติแล้วรถทุกคนถูกกฎหมายกำหนดให้ต้องมี พ.รบ. หรือประกันรถยนต์ภาคบังคับกันอยู่แล้ว ซึ่งความคุ้มครองของพ.รบ.นี้ จะคุ้มครองแค่ในส่วนของบุคคลเท่านั้น ทั้งตัวเจ้าของรถและคู่กรณี แต่ในส่วนของทรัพย์สินนั้น ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. ไม่ได้ครอบคลุมถึงประเด็นนี้ จึงทำให้เจ้าของรถหลาย ๆ ราย สนใจที่จะทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ หรือประกันภัยรถชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ที่เราซื้อกันอยู่ทุกปีนั่นเอง ซึ่งดูเผิน ๆ เหมือนจะสบายใจได้แล้วเพราะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกเหตุการณ์แล้ว แต่เอาเข้าจริงประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจก็ยังมีกรณีที่ไม่คุ้มครองอยู่ อาทิ
กรณีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนอกพื้นที่ราชอาณาจักรไทย อย่างการขับขี่รถข้ามพรมแดนไปยังต่างประเทศ ซึ่งกรณีนี้ถือว่าอยู่นอกพื้นที่ให้ความคุ้มครอง เมื่อเกิดเหตุไม่ว่าคุณจะซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนก็ไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งสิ้น
กรณีรถเกิดอุบัติเหตุจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น การปล้น การขนย้ายยาเสพติด การฆาตกรรม หรือแม้แต่การรับส่งผู้ต้องคดีเพื่อช่วยพาหลบหนีจากการจำคุก หรือหลบหนีต่อความผิด หากประกันภัยสามารถสืบต้นตอมูลเหตุของอุบัติเหตุได้ว่ามาจากการใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย บริษัทประกันภัยสามารถไม่ให้ความคุ้มครองได้ในทุกกรณี
กรณีรถเกิดอุบัติเหตุจากการแข่งขันประชันความเร็ว รถที่ใช้แข่งขันเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว บริษัทจึงไม่คุ้มครองกรณีนี้เช่นกัน
กรณีอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา เคสเมาแล้วขับที่เป็นปัญหาสังคมมายาวนาน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งหากพบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธการมอบความคุ้มครองได้โดยไม่ถือว่าผิดเงื่อนไข
กรณีนำรถไปใช้ในการลากจูงรถคันอื่น จนเกิดอุบัติเหตุ โดยที่ไม่ได้ทำความคุ้มครองเพิ่มเติมประเด็นนี้ไว้ในทีแรก กรณีนี้บริษัทประกันภัยก็จะปฏิเสธการมอบความคุ้มครองให้เช่นกัน
กรณีรถเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานที่ผิดประเภทกับที่แจ้งไว้ตอนทำกรมธรรม์ เช่น รถของคุณแจ้งว่าทำประกันประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล แต่อุบัติเหตุดันเกิดตอนใช้ในการพาณิชย์ การทำการค้าหรือธุรกิจ กรณีนี้ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยเช่นกัน
ได้คำตอบกันไปแล้วว่ากรณีไหนบ้างที่ประกันภัยรถไม่คุ้มครอง ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้ เพื่อให้ความคุ้มครองตามติดคุณและรถไปได้อย่างครอบคลุม แต่หากยังมีความสงสัยเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์เพิ่มเติม สามารถขอรับข้อมูลและคำแนะนำได้ที่ Easy Compare ผู้นำด้านข้อมูลประกันภัยรถที่พร้อมยินดีให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ www.easycompare.co.th เพื่อประโยชน์สูงสุดที่คุณจะได้รับจากการซื้อประกันรถยนต์ที่คุ้มกับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป